มาสเตอร์พีซ ร่วมกับ PACRIM จัดอบรม KEY PLAYERS ขององค์กร
มาสเตอร์พีซ ร่วมกับ PACRIM จัดอบรม KEY PLAYERS ขององค์กร เสริมศักยภาพทุกยูนิตด้วยหลักสูตร 4DX ผลักดันสปอร์ตทีมร่วมแตะเป้า 2023
บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) ในนามโรงพยาบาลมาสเตอร์พีซ โรงพยาบาลชั้นนำด้านศัลยกรรมความงามของไทย ตระหนักถึงคุณค่าและการพัฒนาบุคลากรทุกระดับ ดึง แพคริม–องค์กรด้านการพัฒนาศักยภาพมนุษย์ชื่อดัง ร่วมจัดอบรมหลักสูตร 4DX ให้กับคีย์เพลย์เยอร์สของมาสเตอร์พีซ ให้พร้อมรุกพุ่งชนเป้าธุรกิจทั้งแนวราบและแนวดิ่งในปีนี้
งานอบรมสัมมนาหลักสูตร 4DX เพื่อแนวทางพัฒนาศักยภาพอย่างยั่งยืนให้กับสปอร์ตทีม ของมาสเตอร์พีซ นำโดย คุณหมอเส – นพ.ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์สไตล์ จำกัด (มหาชน) และ คุณดาว – ลภัสรดา เลิศภานุโรจ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ร่วมด้วย อาจารย์กฤตย์ ลีลาเลิศอำไพ ที่ปรึกษาอาวุโส (Sr. Consultant & Facilitator) ของ แพคริม มาบรรยายและอบรม หลักสูตร 4DX ณ โรงแรมสวิสโฮเทลแบงคอก รัชดา
หลักสูตร 4DX หรือ 4 Disciplines of Execution เกิดจากการตกผลึกด้านความรู้และประสบการณ์ทั้งความสำเร็จและล้มเหลวของ Jim Huling และ Chris McChesney โดยหลักใหญ่ใจความคือ “วินัยคือความสำเร็จ จะมีความสำเร็จเป้าหมายต้องชัด กลยุทธ์ต้องเป๊ะ โดยพฤติกรรมที่นำไปสู่ปลายทางด้วยวินัย จำต้องผสานไปพร้อมกันทุกมิติ ยืดหยุ่นได้ แต่ต้องมีแผนที่ชีวิต เพื่อหยุด Pain Point คนประเภท “ไม่รู้-ไม่อิน-ไม่มีเวลา-ไม่รู้จะช่วยอย่างไร” ให้กลายเป็น “รู้-อิน-ให้เวลา-หาวิธีเล่น หรือทำให้สำเร็จ”
4DX เป็นหนึ่งในหลักการที่น่าประทับใจของ คุณหมอเส – นพ.ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล จึงปรารถนานำมาส่งต่อผ่านการอบรม โดยงานนี้ หัวหน้าสปอร์ตทีมอย่างคุณหมอเสและคุณดาว หวังจุดประกายการวางแนวคิดตั้งต้น (Mindset) ให้กับคีย์เพลย์เยอร์สกว่า 40 คน เพื่อนำทางสู่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในการบริหารจัดการงานพร้อมสร้างวินัยร่วมกับทีม และประยุกต์ใช้หลักการต่างๆ ผสานกับวัฒนธรรมองค์กร โดยมีเป้าหมายสร้างเสริมสปอร์ตทีมทุกระดับอย่างยั่งยืน โดยมีการจัดอบรมกันเป็นซีรีส์ต่อเนื่อง
เริ่มต้นการอบรมสัมมนาอย่างเป็นทางการ (สไตล์ไม่เป็นทางการ) ด้วยการกล่าวต้อนรับสมาชิกคีย์เพลย์เยอร์สทุกคนของคุณหมอเส “ถ้าย้อนกลับไปในช่วงที่เรายังเป็นคลินิก มีคนทำงานกันไม่กี่คน ผมพยายามมองหาทุกวิถีทางเพื่อไปยังความสำเร็จตามเป้าหมาย เราจะไปถึงตรงไหน ไปอย่างไร ผมพยายามศึกษาจากคนเก่งระดับโลก ระดับชาติ หรือแบรนด์และองค์กร์ใหญ่ ว่าเขาไปสู่ความสำเร็จตรงนั้นด้วยอะไรบ้าง สิ่งที่เราให้เวลาและทำร่วมกันในวันนี้ ผมหวังให้สปอร์ตทีมทุกคนไปด้วยกันอย่างมีเป้าหมาย มีความเข้าใจ และเห็นเป็นเรื่องเดียวกัน ซึ่งวินัยมีส่วนสำคัญอย่างมากในการพาไปจุดมุ่งหมายสำเร็จ ซึ่ง 4DX ก็เป็นเครื่องมือหนึ่งที่สำคัญ”
นอกจากนั้นคุณหมอเสยังเสริมระหว่างคลาสว่า “อีกหนึ่งเรื่องเล่าที่ขอแชร์ให้ฟัง ครั้งหนึ่งคุณภิญโญ ไตรสุริยธรรมา นักคิด นักเขียน และบรรณาธิการ เคยเซ็นหนังสือให้กับผม โดยเขียนว่า…’ ขอให้หมอเสเลือกข้างพระกฤษณะ จะชนะเสมอ ’ ซึ่งเป็นปรัชญาที่ซ่อนอยู่ใน ‘ ภควัทคีตา ’ (พะ-คะ-วัด-คี-ตา) คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาฮินดู และต้นตอมหาภาระของอินเดีย
“ เป็นแนวปรัชญาซึ่งผมครุ่นคิดอยู่เนิ่นนานหลายหน กล่าวคือ มีแผ่นดินฝั่งคนดี มีเรื่องตีกันกับผู้รุกรานฝ่ายไม่ดี ซึ่งทั้งสองฝ่ายแท้จริงแล้วเป็นญาติพี่น้องกัน พระกฤษณะอยู่ตรงกลางระหว่างสองฝั่ง โดยพระองค์มีสมบัติสองอย่างคือ ‘ปัญญา’ และ ‘กำลังพล’ ฝ่ายไม่ดีเลือกก่อน เอากำลังพลไป เพราะจำนวนกำลังพลเป็นสิ่งที่มองเห็นง่าย
“ ส่วนฝั่งดีก็ได้ปัญญาไป เมื่อสู้รบกันสองฝ่าย แถมเป็นญาติพี่น้องกัน พระกฤษณะจำแลงมาเป็นพาหนะรบให้ฝ่ายที่ลังเลที่จะรบกับญาติตัว จะรบพุ่งด้วยก็ไม่กล้า แต่ปล่อยไว้ก็ไม่ถูกต้อง จากเรื่องนี้ผมอยากบอกว่า ข้อตัดสินใจในการจะทำอะไรก็ตาม ว่าเราต้องทำอะไร อย่างไร ให้ดูว่าตัวเองกำลังสวมหมวกใบไหน เพื่อทำหน้าที่อะไร และเพื่ออะไร” คุณหมอเส – นพ.ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล กล่าว
เพิ่มเติมประเด็นจากเรื่องเล่าข้างต้นนี้ กล่าวคือ สงครามแห่งทุ่งกุรุเกษตรและคำสั่งสอนของพระกฤษณะในภควัทคีตามีการตีความไว้หลากหลายรูปแบบ ส่วนที่นิยมสุดคือการเปรียบเปรยว่า มันก็เหมือนสงครามภายในใจของมนุษย์ทุกคน ในยามที่ต้องเผชิญกับการตัดสินใจที่ยากลำบาก ก็ให้ฟังเสียงในใจและก้าวเดินตามเสียงนั้นไป และนั่นคือสิ่งที่คุณหมอเสยกขึ้นมาเปรียบจากการที่ คุณภิญโญ ไตรสุริยธรรมา นักคิดนักเขียนร่วมสมัยชี้ประเด็นให้เลือกอยู่ข้างพระกฤษณะนั่นเอง
ทางด้าน คุณดาว – ลภัสรดา เลิศภานุโรจ ร่วมแชร์และชวนคิดจากช่วงต้นของการอบรม “สิ่งที่เป็นเรื่องง่ายหรือยากของคนเรานั้นต่างกัน ดาวเป็นแนวเพอร์เฟ็กชั่นนิสต์ มีคนเคยถามว่า ตลอดเวลาที่ดาวจัดการเรื่องเตรียม ‘บริษัท (จำกัด)’ ยื่นไฟลิ่งเข้าตลาดหลักทรัพย์เป็น ‘บริษัทมหาชน’ นั้น ทำสำเร็จทั้งหมดคิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ ดาวบอกได้เลยว่า 100% เพราะการเป็นคนที่ชอบความสมบูรณ์แบบ จึงทำให้เวลาหยิบจับทำอะไรแล้วต้องทำให้สำเร็จเท่านั้น ล้มเหลวไม่ได้
“เมื่อคุยกับคุณหมอเส ท่านบอกกับดาวว่า หากมารับตำแหน่งบริหารงานตรงนี้ ซึ่งในความเป็นจริงของชีวิตคนเรา มันไม่สำเร็จในทุกเรื่องเสมอไปหรอกนะคุณดาว ดังนั้น ต้องยอมรับและหาทางแก้ไขให้ได้ พอได้ฟังคำพูดนี้ มันคือ Disciplines ที่ดาวต้องนำมาฝึกและพัฒนาเพื่อกล้ายอมรับความล้มเหลว เข้าใจและยอมรับมันออกมาให้ได้ และนี่คือสิ่งที่ดาวพยายามพัฒนาให้ตนเองมีวินัยในเรื่องนี้ คือการกล้ายอมรับความล้มเหลวให้มากขึ้น”
เรียกว่าประธานและรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) เริ่มต้นเปิดการอบรมและสัมมนาด้วยการจุดไฟให้ทีมในงานอบรมช่วงเช้า เพื่อปลุกคีย์เพลย์เยอร์สทุกคนให้พร้อมรับทุกส่วนของ 4DX แล้วเจาะไปยังใจกลางความสำเร็จ
‘วินัย คือ การพัฒนา’
‘การพัฒนานำสู่เป้าหมาย’
และเป็นเหตุเป็นผลต่อกันคือ ‘มีวินัย เพื่อไปถึงเป้าหมาย’
สิ่งนี้ไม่ใช่การอบรมกันสั้นๆ แล้วออกไปใช้งานได้เลย แต่จำเป็นต้องตามหาจุด อุดช่องปัญหา และฝึกหัด ร่วมพัฒนาด้วยกันอย่างเป็นระบบ ตามที่ อาจารย์กฤตย์ ลีลาเลิศอำไพ ได้ถอดบทเรียนร่วมกันกับสปอร์ตทีมของมาสเตอร์พีซในตลอดทั้งวันนั้น
จังหวะของความสุข สนุกสนานในคลาสแรกที่ทำให้ทุกคนได้ผ่อนคลาย และชวนคิด ด้วยการรับโจทย์วางไพ่ให้สูงที่สุดโดยห้ามใช้อุปกรณ์อื่นใดช่วย แต่ละทีมมีเวลาเท่ากัน และทีมที่ทำสำเร็จหลังหมดเวลาก็คือ ทีมของคุณดาว คุณอ้น คุณแวน ฯลฯ เคล็ดลับสู่เป้าหมายคือ คุณแวนเดินไปกระซิบถามคนสร้างเกมว่า อนุญาตให้ทำบางอย่างกับไพ่ได้หรือไม่ คือการหักงอไพ่บางส่วนเพื่อตั้งเป็นเสา สร้างแกนที่ทนทานให้กับโครงสร้างการจัดเรียงไพ่อันแสนบอบบางให้ยืนอยู่ได้หลายชั้น การทวนถามในสิ่งที่สงสัยจากผู้ที่รู้จริงจึงเป็นกุญแจไขสู่ชัยชนะในเกม
นอกจากนั้น ช่วงท้ายของการอบรมในภาคบ่าย กับเซสชั่นการฝึกหัดร่วมกัน (Workshop) เพื่อประยุกต์ใช้หลักการจากคลาสแรกในวันนี้ ด้วยการคิดไอเดียกำหนดเป้าหลัก หรือ WIG ด้วยกันในทีมให้มากที่สุด โดยไม่ Kill ไอเดียของใครเลย ก่อนเลือกเป้าหลักที่เหมาะควร 2-3 ไอเดีย ให้เข้ากับ WIG หลักขององค์กรและวิถีชีวิตจริงในการทำงาน ก่อนประเมินวัดผลร่วมกันในลำดับต่อไป
นอกจากนี้ บุคลากรฝ่ายต่างๆ ยังร่วมคิดร่วมแชร์ประโยชน์และสิ่งที่ได้รับจากงานอบรมหลักสูตร 4DX
“ ผมรู้สึกดีใจและตื่นเต้นที่มีโอกาสได้รับความรู้ใหม่ๆ จาก อาจารย์กฤตย์ ลีลาเลิศอำไพ แห่ง แพคริม ที่จะสามารถนำมาพัฒนาทีมแพทย์ของโรงพยาบาลมาสเตอร์พีซ
“ 4DX เป็นการสรุปหลักการเพื่อพัฒนาผลลัพธ์ในการบรรลุสู่เป้าหมายสำคัญสูงสุดขององค์กรได้อย่างชัดเจน เป็นรูปธรรม และสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง
“ หลังจากนี้ ทางทีมแพทย์จะได้นำหลักการ 4DX ไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงาน โดยแพทย์ทุกคนจะได้มีส่วนร่วมทุกขั้นตอน ตั้งแต่การวางแผน ตั้งเป้าหมาย และกระบวนการปฏิบัติ รวมถึงประเมินผลลัพธ์ร่วมกันต่อไป ” คุณหมอต้น – นพ. ชนกร เตือนอารีย์ หัวหน้าทีมแพทย์ และศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง ร่วมแชร์ความเห็นและสิ่งที่ได้รับจากคลาส
ด้าน โค้ชแจ๊ด – ชฏาวรรณ คังคะเกตุ Executive Coach ระดับ มาสเตอร์ ที่ปรึกษาของ มาสเตอร์พีซ กล่าว “ดิฉันเห็นว่าเป็นวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของคุณหมอเสที่นำ 4DX เข้ามาใช้ใน MTP เพราะ
นอกจาก 4DX จะเป็นเครื่องมือขับเคลื่อนองค์กรสู่เป้าหมายที่ต้องการแล้ว 4DX ยังสร้างให้เกิดความสัมพันธ์จากใจ (Engagement) ของบุคลกร MTP อย่างทั่วถึงด้วย
“เช่น คำพูดของคุณหมอเสที่ว่า…การแนะนำบุคลากรที่ ‘ใช่’ มาทำงานที่ MTP เป็นภารกิจของทุกคน เป็นการกระจายอำนาจและสร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของร่วมของทุกคนใน MTP อย่างแท้จริง ทั้งนี้ เพราะบุคลากรเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่จะนำ MTP สู่เป้าหมาย
“ นอกจากนี้การอบรม 4DX ยังทำให้พวกเราตระหนักมากขึ้นว่า ทุกอย่างต้องเริ่มจากตัวเราเองก่อน ทั้งการสร้างความพึงพอใจในตัวเอง ด้วยการเห็นคุณค่าของตัวเองเพื่อนำกลับไปสร้างทีม ให้เป็น Value Asset ของ MTP ทั้งยังต้องสร้างวินัยในตัวเอง เราต้องเปลี่ยน Mindset เพื่อเปลี่ยนพฤติกรรมของเรา ที่สำคัญคือ เราจะจัดการปัญหา Routine กับปัญหาที่ส่งผลต่อการทำงานสำคัญอย่างไร
“นอกจากนั้น การส่งต่อทีมคือ การสร้างสปอร์ตทีมให้เป็น Winning Team เกิดผลลัพธ์ของทีมในด้านBusiness Performance และ Operational Performance ซึ่งวันนี้พวกเราได้รู้ถึงเป้าหมายหลักที่สำคัญที่สุดของ MTP และดิฉันมีความเชื่อมั่นว่า พวกเราบรรลุการสร้าง MTP Sport Winning Team ได้อย่างแน่นอน ”
ทางด้าน นัท – ดนัยนาถ ลี้ประเสริฐ ผู้จัดการศูนย์ดึงหน้ายกคิ้ว Face Lift Center by Masterpiece Hospital ร่วมแสดงทัศนะ “ รู้สึกยินดีที่ได้มาร่วมเรียนหลักสูตร 4DX กับทาง PacRim มากครับ อยากมาเรียนแบบนี้บ่อยๆ ส่วนสิ่งที่ได้รับจากการอบรม คือเข้าใจเนื้อหาเพิ่มมากขึ้น และได้ไอเดียใหม่ๆ ไปใช้ในการพัฒนาการทำงานของโปรเจ็กต์ตัวเองครับ ”